หลังจากที่วันก่อนได้ทำการแอบเอากระเป๋าใบนี้ของภรรยาไป ทำ Facebook Live แกะกล่อง เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น

ก็ใน ไลฟ์ อาจจะเห็นเนื้องานของกระเป๋าได้ไม่ละเอียดสักเท่าไหร่ เลยขอฉกอีกรอบมาจับถ่ายรูปให้ดูกันชัดๆน่าจะดีกว่า เริ่ม

กล่องของเจ้ากระเป๋า ฆ่าเชื้อใบนี้ก็มาแบบง่ายๆไม่ได้ ซับซ้อนอะไรครับ
ชื่อระบุสรรพคุณของกระเป๋าใบนี้
ภาพนี้ สื่อความหมายชัดเจนว่า 3 นาที แล้วยังไง เดี่ยวเล่าให้อ่าน
คุณสมบัติที่อัดแนน่ภายในกระเป๋าใบเล็กๆใบนี้ เพียบพร้อมเลยล่ะ
รายละเอียดและมารตฐานที่รับรอง

ดูกล่องไปแล้วได้เวลา นางเอก ของเราซักที มา!

ที่บอกว่า นางเอก ก็ดูเอาแล้วกันนะครับ สีชมพูหวานใส มาขนาดนี้ แมนๆอย่างผมถือทีมีเขิล
พื้นผิวสัมผัสสำหรับกระเป๋าใบนี้ ประมาณว่าเป็น หนังเทียม นิ่มๆ แต่ก็ดูและรักษาง่าย
แหล่งที่มาของกระเป๋าใบนี้ หากสนใจ ก็ตามที่เห็นไม่น่ายากอะไร
ที่ด้านบนฝากระเป๋า ก็มีข้อรายละเอียด และ ข้อควรระวัง แปะไว้ให้เราอ่านด้วยนะ อ่านกันเองนะ
ที่จับก็ออกแบบมาแนวๆ วินเทจ อ่อนๆ แต่เรื่องของการตัดเย็บแล้วเข้าชิ้นงาน ไม่ขี้เหร่นะใช้ได้เลย
และนี่ก็ถือเป็นอีก 1 ส่วนประกอบที่สำคัญ เพราะมันมีหน้าที่ ในการเชื่อมต่อเปิดระบบการทำงานของกระเป่าใบนี้
ที่ด้านหลังของกระเป่าจะมี ช่องสำหรับเก็บสาย USB ไว้ด้วยเวลา ถือไปไหนมาไหน จะได้ไม่เกะกะ เรา
ได้เวลา รูดซิป เปิดฝากระเป๋ากันให้ดูชัดๆ ว่าด้านในมีส่วนประกอบอะไรกันบ้าง จากที่เห็นที่บนฝากระเป๋า ก็จะมี แผงไฟ LED ที่ฉายแสง UV อยู่ทั้งหมด 2 แถว แถวละ 3 ดวงด้วยกัน
ดูกันชัดๆ พระเอก ของเราที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋านางเอกใบนี้ เห็นดวงเล็กๆนี่ประสิทธิภาพคับติ้วเลยนะจะบอกให้
ส่วนด้านในกระเป๋าก็จะมี ตระแกรงผ้า 1 ชิ้น ที่ไว้ให้เราวางสิ่งของบนนั้น
และที่ด้านล่างของกระเป๋าก็มีแผงไฟ LED เหมือนที่ฝากระเป๋าเช่นกัน เพื่อครอบคลุมการ ฆ่าเชื้อโรคให้ดีขึ้นนั่นเอง
ตะแกรงที่เอาไว้วางสิ่งของ ตาข่ายทำจากผ้ายึดปกติ

เอาล่ะครับก็สมควรแก่เวลาที่เราจะมาลองทดสอบการใช้งาน กระเป๋าฆ่าเชื้อใบนี้สักที การใช้งานจะง่ายหรือยาก ยุ่งยากหรือชิลล์ๆ มาดูกันครับ

เปิดฝา เอาสิ่งของที่เราอยากจะ ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรค วางไว้บนตะแกรงด้านใน จากที่เห็นผมใส่ เมาท์ 1 ชิ้น และกระเป๋าสตางค์หนัง 1 ใบ เข้าไป
แล้วก็ปิดฝากระเป๋า ดึงเอาสาย USB ที่ด้านหลังออกมา ครั้งนี้ผมเสียบเข้ากับ PowerBank เลยครับไม่ต้องยุ่งยากไปหา ตัวแปลงให้วุ่นวาย เล่นกันบ้านๆแบบนี้ ดูสิ้จะติดมั้ย
รูดซิป ให้มิดชิด กันแสงลอดผ่านออกมาครับ แล้วก็เอา ห่วงสีเงินตัวนี้มา ครอบทับที่ปุ่ม MIN3 ตามภาพ เพราะถ้าเราไม่ครอบห่วงที่ปุ่ม มันจะเปิดไฟไม่ติดครับ ลอง อยู่ สามสี่รอบเลย
แล้วก็กด ที่ปุ่ม MIN3 ไฟ LED ภายในกระเป๋าก็ติดขึ้นมาทันที อย่าไปดึงห่วงออกหล่ะ ไฟดับทันที!
ถ่ายให้ดู ชัดๆว่า ไฟ LED ทำงานได้จริง ปล่อยแสง UV ที่มีคุณสมบัติในการ ฆ่า เชื้อโรคที่ฉาบอยู่บนสิ่งของให้ตาย หมดสภาพไป
ระบบการทำงาน ต่อ 1 ครั้งอยู่ที่ 3 นาที ตามที่บอกไว้ตรงปุ่มนี่เลย ซึ่งเมื่อครบตามเวลา ไฟก็จะดับ เราก็แค่เปิดกระเป๋าเอาสิ่งของที่ใส่ไว้ออกมา ก็เท่านั้น เป็นอันเสร็จลุล่วง

เป็นการทำงานที่ ง่าย จริงๆ

มีใครให้ ง่าย กว่านี้อีกไหม?

ถ้าถามผมว่ามันทำงาน ฆ่าเชื้อโรค ได้จริงแท้แค่ไหม ผมตอบไม่ได้จริงๆครับ เพราะการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ต้องมีกระบวนการและเครื่องมือในการวัดผลที่ชัดเจน จับต้องได้ ซึ่งผมไม่มี

แต่

ถ้าถามว่า ภรรยา สบายใจที่มี กระเป๋าใบนี้หรือไม่ 100% คือค่าความพอใจที่ผมรู้สึกได้ เพราะไม่ว่าจะ หน้ากากผ้าเอย ธนบัตรเอย เหรียญเงินเอย หรืออะไรก็ตามที่เราที่ได้มา ทั้งรู้ที่มาหรือไม่รู้ก็ตามมันจะต้องผ่านกระเป๋าใบนี้ก่อนทุกครั้งถึงจะถูกเก็บหรือเอามาใช้งานต่อไป อย่างน้อยก็ไม่ต้องคอย ฉีดพ่น สเปรย์แอลกอฮอลล์ ให้ฉุ่มฉ่ำทุกๆครั้ง ยิ่งบ้านผมที่มีลูกชายจอมซนอย่าง #ณรรรณ ที่หยิบจับทุกสิ่งอย่างในโลกนี้ด้วยแล้วหล่ะก็ บอกเลยครับ กระเป๋า UV ใบนี้เหมาะเสียนี่กะไร

เหมือนเช่นเคยทุกๆครั้ง กระเป๋าใบนี้ เสียเงินซื้อมาเองครับ ไม่มีการสนับสนุนใดๆ แต่การแบ่งปันประสบการณ์ บอกเล่าเรื่องราว คือความพึงพอใจที่ต้องการกระทำเท่านั้น ประสบการณ์การใช้งาน แม้จะเป็นของสิ่งเดียวกัน แต่คนใช้งานคนละคนก็ ย่อมแตกต่างกันไปนะครับ ยังไงก็ลองดูไว้เป็นข้อมูลสำหรับไว้พิจารณาแล้วกันครับ

ขอบได้รับคำขอบคุณจาก #โต๊ะกินข้าวสตูดิโอ

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  เปลี่ยนแปลง )

Connecting to %s